นิยามการรับรู้

ถ้าต้นไม้โค่นลงในป่าและไม่มีใครได้ยิน จะมีเสียงหรือไม่ ? คำถามยอดฮิตและกระตุ้นความสนใจคำถามนี้ เป็นปรัชญาทดลองทางความคิดที่ก่อให้เกิดการตั้งคำถามต่อการสังเกตและการรับรู้ของเรา

มีการเข้าใจผิดว่าต้นตอของคำถามมาจากเบิร์กเลย์ แต่จากหลักฐานในงานเขียนของเขาก็ไม่มีข้อความใดที่พูดถึงคำถามเหล่านี้ ข้อความที่ใกล้เคียงที่สุดปรากฏอยู่สองตอนในหนังสือของเขา A Treatise Concerning the Principles of Human Knowledge (1710)  ดังนี้

“ไม่มีอะไรง่ายไปกว่าการที่ฉันจะจินตนาการถึงต้นไม้ในสวนสาธารณะ หรือหนังสือที่วางอยู่ในตู้และไม่มีใครรับรู้ได้”

“วัตถุแห่งความรู้สึกมีอยู่ก็ต่อเมื่อมีการรับรู้ ต้นไม้จึงอยู่ในสวนไม่นานไปกว่าในขณะที่มีใครรับรู้”

แม้ข้อความเหล่านี้จะมีความคล้ายคลึงกับคำถาม ดังกล่าว แต่เบิร์กเลย์ก็ไม่เคยเสนอคำถามด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามงานของเขาได้ให้คำตอบไว้แล้วสำหรับคำถามที่ว่า วัตถุสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างไรเมื่อไม่มีใครรับรู้ ?

แท้จริงแล้วคำถามที่ใกล้เคียงที่สุดมาจากหนังสือ “Physics” by Charles Riborg Mann and George Ransom Twiss (1910) โดยถามไว้ว่า “เมื่อต้นไม้ล้มในป่าที่เงียบเหงา และไม่มีสัตว์อยู่ใกล้เคียง เราจะได้ยินมันส่งเสียงหรือไม่ เพราะเหตุใด ?” ซึ่งถูกตั้งไว้พร้อมกับคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย

คำตอบสำหรับคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตีความคำว่า “เสียง” อย่างไร  ถ้าตีความว่าเสียงคือปรากฏการณ์ทางกายภาพ คือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการบีบอัดของอากาศโดยการรบกวนทางกายภาพอันเกิดจากการโค่นลงของต้นไม้  เสียงก็จะมีอยู่ในฐานะที่เป็นสิ่งทางกายภาพสิ่งหนึ่งหรือพลังงานรูปแบบหนึ่ง

แต่ถ้าตีความว่าเสียงคือปรากฏการณ์การรับรู้ของจิต  ถ้าไม่มีคนอยู่แถวนั้น ไม่มีใครรับรู้ ไม่เกิดกระบวนการที่คลื่นเสียงจะเข้ามากระทบหูแล้วส่งสัญญาณประสาทไปยังสมอง เกิดการรับรู้ขึ้นเป็นปรากฏการณ์ของจิตใจ เสียงก็ไม่มีอยู่

คำถามจุดประกายความคิดเหล่านี้อธิบายถึงการตีความการสังเกตและการรับรู้ที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ไอน์สไตน์กับบอร์ตีกันอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนดังตัวอย่างที่ผ่านมา

บางส่วนจากหนังสือ “จักรวาลควอนตัม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *